วันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

โครงงานพัฒนาเว็บไซต์ เรื่อง อาหารไทย

โครงงานพัฒนาเว็บไซต์ เรื่อง อาหารไทย

 จัดทำโดยนางสาว สุชาวดี นกแก้ว ม.4/3 เลขที่ 13นางสาวเกวรินทร์ โค่ยสัตยา ม.4/3 เลขที่ 23นางสาว ธนัชพร พลชนะ ม.4/3 เลขที่ 25นางสาว อรุณรัตน์ จันทกาญจน์ ม.4/3 เลขที่ 30

คุณครูที่ปรึกษาคุณครู ศิรินันท์ ขุนชุม
รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาวิชา ง 31101 คอมพิวเตอร์ 3โรงเรียนเทสบาล5 (วัดหัวป้อมนอก)ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560

คำนำ
รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาวิชา คอมพิวเตอร โครงงานนี้ได้ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ ศึกษาแนวทางในการทำโครงงาน อย่างเช่น ความหมาย ประเภท วิธีการดำเนินงาน และการนำเสนอผลงานและโครงงานคณะผู้จัดทำได้ศึกษาค้นคว้าโครงงานการพัฒนาเว็บไซต์เรื่อง อาหารไทย(TraditionalThaidesserts) สำหรับบุคคลทั่วไปที่สนใจโดยรวบรวมข้อมูลและนำเสนอโครงงานในรูปแบบเคร้าโครงของโครงงานคณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานโครงงานฉบับนี้เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจที่จะศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์เรื่องขนมไทยโบราณ (Traditional Thaidesserts)
คณะผู้จัดทำ

สารบัญ
หน้าแนวคิดที่มาและความสำคัญวัตถุประสงค์ของโครงงานเป้าหมายและขอบเขตของโครงงานรายละเอียดการพัฒนาขั้นตอนการดำเนินงานงบประมาณประโยชนที่คาดว่าที่ได้รับภาคผนวก

แนวคิดที่มา และ ความสำคัญ
ปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่มีความคิดในเรื่องของค่านิยมทางวุตถุค่อนข้างมากไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเป็นอยู่ การใช้สินค้าแบรนด์เนม การใช้สิ่งของอำนวยความสะดวกจำพวก โทรศัพท์มือถือ ต่างๆ มากมาย นอกจากนี้ยังรวมถึง อาหารการกินของคนไทยในปัจจุบัน นิยมทานอาหารตามแบบตะวันตกอาทิ เช่น ต้มยำกุ้ง เป็นต้น ทำให้อาหารไทยจำพวกขนมไทยได้รับความนิยมลดน้อยลงดังนั้นคณะผู้จัดทำ ได้เห็นความสำคัญ ของการศึกษาเกี่ยวกับอาหารไทยจึงมีการศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตและทำเว็บไซต์นี้มาเพื่อให้ผู้ที่สนใจได้นำไปศึกษาและยังเป็นการอนุรักษณ์ของอาหารไทยอีกทางหนึ่งด้วย



วัตถุประสงค์ของโครงงาน1.เพื่อศึกษาและพัฒนาเว็บไซต์เรื่องอาหารไทย2.เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญและการอนุรักษ์อาหารไทย3.เพื่อเป็นแหล่งความรู้ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายกับคนทุกเพศทุกวัยโดยเฉพาะในวัยรุ่น

ขอบเขตของการศึกษาโครงงาน
ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับอาหารไทยและยังสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับการดำรงชีวิตในปัจจุบันและ ขอบเขตของโครงงานนี้จะมีการทำเว็บไซต์เพื่อที่จะพัฒนาข้อมูลและนำเสนอข้อมูลให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาศึกษาค้นคว้า

รายละเอียดในการพัฒนา1.เทคนิคหรือเทคโนโลยีที่ใช้-ในการพัฒนาเว็บไซต์นี้ใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในการพัฒนาเว็บไซต์และเป็น เว็บไซต์ซึ่งมีลักษณะเป็นเว็บบล็อก2.การวิจัยหรือโครงงานที่เกี่ยวข้อง โครงงานพัฒนาเว็บไซต์นี้เกี่ยวข้องกับอาหารไทย เพราะเรามีความคิดที่ว่าควรจะรักษาและอนุรักษ์ความเป็นไทยเอาไว้3.เครื่องมือที่จะใช้ในการพัฒนา3.1 คอมพิวเตอร์ 3.2 อินเทอร์เน็ต 3.3 โปรแกรมเว็บบล็อก4. ข้อจำกัดของโปรแกรมที่จะพัฒนา ดครงงานนี้มีข้อจำกัดการพัฒนาในเว็บไซต์ของเว็บบร์อดเท่านั้น ไม่สามารถไปพัฒนาในเว็บไซต์อื่นได้ และผู้ที่ศึกษาสามารถเข้ามาศึกษาได้ผ่านทางอินเทอร์เน็ต

วิธีการดำเนินงานคณะผู้จัดทำดำเนินการดังต่อไปนี้ จากวันแรกที่เราได้รับมอบหมายงานมาเราก็คิดและวิเคราะห์ว่าจะทำงานเป็นประเภทไหนดี เมื่อตกลงกันได้แล้วเราก็เริ่มที่จะศึกษาวิธีการต่างๆเกี่ยวกับการทำงานในครั้งนี้ เช่น ศึกษาการเขียนโครงงาน ศึกษาการเขียนรายงานและศึกษาการสร้างเว็บไซต์และต่างๆ เพื่อเราศึกษาเข้าใจเราจึงเริ่มการเขียนรายงานแต่อุปสรรคนั้นก็มากมายแต่เราก็ผ่านไปได้เราได้คิดการเขียนโครงงานเริ่มจากการเขียนหน้าปก ทำคำนำและคิดเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องที่ทำต่อจากนั้นเราก็เริ่มพัฒนาเว็บไซต์ขึ้นไปเรื่อยๆตามความถนัดจนกว่างานชิ้นนี้จะประสบความสำเร็จ

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ1.มีเว็บไซต์ที่เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับ อาหารไทย2.เป็นรูปแบบการอนุรักษ์อาหารไทยให้กับคนรุ่นใหม่ได้เข้ามาศึกษาหาความรู้ได้
โครงงานเรื่อง อาหารไทย
โครงงาน เรื่อง…อาหารไทย


  1. 1. โครงงานเรื่อง อาหารไทย โครงงาน เรื่อง…อาหารไทย
  1. 2. หลักการและเหตุผล วัตถุประสงค์ เครื่องครัว ผักสมุนไพรไทย เทคนิคการปรุงอาหาร อาหารคาว HOME อาหารหวานบรรณานุกรม ผู้จัดทา โครงงาน เรื่อง…อาหารไทย
  1. 3. หลักการและเหตุผล หลักการและเหตุผล
  1. 4. หลักการและเหตุผล เนื่องจากปัจจุบันอาหารฟาสต์ฟูดมีอิทธิพลต่อชาวเอเชียมากขึ้น ทาให้ความนิยมใน อาหารไทยเริ่มลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ทาให้คนสมัยใหม่อาจลืมเลือนในวัฒนธรรมไทยไปบางส่วน ซึ่ง ในความจริงแล้ว อาหารไทยเป็นอาหารที่นิยมทั่วโลกเนื่องจากรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเกิดจาก การผสมผสานอย่างกลมกล่อมของรสหวาน รสเปรี้ยว และรสเค็ม นอกจากนั้นยังมีรสเผ็ดร้อนของ พริกที่เพิ่มรสชาติอาหารไทยให้เป็นที่นิยมของชนทุกชั้น ทั้งคนไทยและผู้บริโภคชาวต่างชาติทั่วโลก เราจึงควรอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยในเรื่องของอาหารไทยไว้ให้ลูกหลานสืบต่อไป หลักการและเหตุผล
  1. 5. วัตถุประสงค์ วัตถุประสงค์
  1. 6. วัตถุประสงค์ 1 เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมไทย 2 เพื่อทราบถึงคุณค่าของอาหารไทย 3 เพื่อนาไปในการประกอบอาชีพได้ 4 เพื่อทราบถึงความหลากหลายของอาหารไทย วัตถุประสงค์
  1. 7. อาหารไทยได้รวบรวมสุดยอดศิลปะการปรุงอาหารของชาวเอเชียตะวันออก ไม่ว่าจะเป็นการ ปรุงอาหารแบบซีฉวนของจีน, การปรุงอาหารเขตเมืองร้อนของชาวมาเลย์, การปรุงอาหารด้วยกะทิอันมี ต้นกาเนิดจากอินเดียตอนใต้ และ การใช้เครื่องเทศในการปรุงอาหารของชาวอาราเบีย ศิลปะการปรุง อาหารไทยที่มีต้นกาเนิดจากการผสมผสานของศิลปะการปรุงอาหารที่หลากหลายเหล่านี้ได้รับการ ประยุกต์โดยใช้ สมุนไพรพื้นเมืองที่สมบูรณ์ภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ผักชี, พริก, พริกไทย, เครื่องเทศอื่นๆ ผลที่ได้คือรูปลักษณ์อาหารที่ชวนให้น่ารับประทาน ขณะที่ใช้เนื้อสัตว์ปรุงอาหารใน ปริมาณจากัด และเน้นคุณค่าของสมุนไพรและผักสดต่างๆ ทาให้อาหารไทยอร่อยทั้งรสชาติ, สารอาหาร ครบถ้วนและดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค อาหารไทย อาหารไทย
  1. 8. เครื่องครัว เครื่องครัว
  1. 9. เครื่องครัว การทาอาหารไทยเกี่ยวข้องกับการทาเครื่องแกงบ่อยครั้ง ซึ่งการ ผสมเครื่องแกงให้เข้ากันอย่างสมบูรณ์นั้น จาเป็นต้องมีเครื่องครัวที่ เรียกว่า สาก+ครก (Mortar + Pestle) สาก+ครก นั้นมักจะทาจาก หินแกรนิตที่มีน้าหนักมาก นามาปรับแต่งรูปทรงให้ได้เหมาะตามรูปทรง มาตรฐาน ซึ่งโดยทั่วไปคนไทยก็มักจะมี สาก+ครก อย่างน้อยหนึ่งชุดติด ครัวไว้เพื่อประกอบอาหาร ในกรณีที่ท่านไม่มีเครื่องครัวชนิดนี้ เครื่องปั่น อเนกประสงค์ไฟฟ้ าก็สามารถใช้ทดแทนกันได้ชั่วคราว สาก+ครกที่ทา จากหินมักจะใช้ในการผสมเครื่องแกงให้เข้ากัน ขณะที่ สาก+ครก ซึ่งทา จากไม้มักจะใช้ประกอบอาหารไทยประเภทตา + ยา เช่นส้มตา (Papaya Salad) อาหารที่คนทั่วโลกรู้จักกันดี เครื่องครัว
  1. 10. เครื่องครัวที่สาคัญ ใช้กันบ่อย และเป็นที่รู้จักกันอย่างดีน่าจะเป็น กระทะ ถ้า คุณคิดที่จะซื้อเครื่องครัวอะไรสักอย่างสาหรับประกอบอาหารไทย สิ่งแรกที่คุณก็ควร จะซื้อก็คือกระทะนั่นเอง กระทะสามารถประยุกต์ใช้ในการประกอบอาหารได้หลาย แบบ ไม่ว่าจะเป็นการผัด การต้ม การทอด หรือแม้กระทั่งการนึ่ง จริงๆแล้วรูปทรง กระทะมีคุณสมบัติในการกระจายความร้อนได้เป็นอย่างดี ซึ่งเหมาะสมอย่างมากกับ การประกอบอาหารประเภทผัด กระทะนั้นมีทั้งที่ผลิตจากเหล็ก, อลูมิเนียม และ ทองเหลือง โดยทั่วไปครัวตามร้านอาหาร หรือโรงแรมมักนิยมใช้กระทะที่ทาจาก เหล็กในการปรุงอาหาร อย่างไรก็ดีสาหรับกระทะเหล็กนั้น มีเคล็ดลับที่สาคัญก่อนการ ใช้กระทะใหม่ ขั้นตอนนี้เรียกว่า การเปิดกระทะ โดยกระทะเหล็กอันใหม่ที่เพิ่งซื้อมา จะต้องนาไปอังไฟจนแดงและชโลมด้วยน้ามันที่หน้ากระทะ ขั้นตอนนี้สาคัญมาก เพราะจะเป็นการสร้างฟิล์มน้ามันที่ผิวหน้าของกระทะ เพื่อป้ องกันไม่ให้อาหารติด กระทะในระหว่างการผัด ขั้นตอนนี้สาคัญมากและต้องทาหลายๆครั้ง ซึ่งหลังจากการ เปิดกระทะแล้ว การบารุงรักษาเป็นสิ่งสาคัญ หลังจากปรุงอาหารเสร็จ ควรล้างด้วย น้าเปล่าหรือสบู่อ่อนๆ กับฟองน้าเท่านั้น เพื่อไม่ให้ฟิล์มน้ามันที่ติดอยู่บนผิวกระทะ หลุดลอกออกไป เครื่องครัว
  1. 11. เครื่องครัวอื่นๆที่จาเป็นในการประกอบ อาหารไทย ได้แก่ ซึ้ง (Steamer) ซึ้งมักใช้ในการปรุง อาหารประเภทนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการนึ่งข้าวเหนียว (Sticky Rice) หรือการนึ่งปลา และนึ่งผักต่างๆ สาหรับการรับประทานกับน้าพริก ”ซึ่ง “ มีหลาย ชนิด ไม่ว่าจะผลิตจากอลูมิเนียม ซึ่งมีแบบชั้นเดียว หรือหลายชั้น นอกจากนั้นยังมี “ซึ้ง” ที่ทาจากไม้ไผ่ แต่ภาชนะด้านใต้ทาจากโลหะ ซึ้งไม้ไผ่ราคาถูก กว่าซึ้งอลูมิเนียม แต่ในการบารุงรักษาจาเป็นต้อง มีการผึ่งแดดให้แห้งสนิทเพื่อป้ องกันเชื้อรา และ การเสียรูปทรงของซึ้ง เครื่องครัว
  1. 12. ทัพพีในการปรุงอาหารไทยนั้น สามารถใช้ในขั้นตอนการผัดอาหาร ขอบที่กลมทาให้ การผัดทาได้ง่าย และไม่ทาลายฟิล์มน้ามันที่ติดอยู่บนหน้ากระทะ นอกจากนั้นทัพพียัง สามารถใช้กวนในขั้นตอนการต้ม ปรุงแกงหรือน้าแกงได้อีกด้วย นอกจากเครื่องครัวที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว คุณสามารถที่จะประยุกต์ใช้เครื่องครัวที่คุณมี เพื่อทดแทนเครื่องครัวหลักในการปรุงอาหารไทยได้ หลังจากที่คุณทราบถึงแก่นแท้ในการปรุง อาหารไทยแล้ว คุณจะรู้ว่าเครื่องครัวชนิดใดเหมาะกับการปรุงอาหารประเภทใด และ เครื่องครัวชนิดใดที่คุณสามารถใช้แทนเครื่องครัวที่คุณไม่มี อย่างเช่น คุณสามารถใช้กระทะ ต้มน้าแกง แทนที่จะใช้แต่หม้อต้มน้าแกง เป็นต้น เครื่องครัว
  1. 13. ผักสมุนไพรไทย ผักสมุนไพรไทย
  1. 14. ผักสมุนไพรไทยการทาอาหารไทยให้อร่อย ต้อง เริ่มต้นด้วยความพิถีพิถันในการเลือกซื้อ เครื่องปรุงที่สดใหม่ จัดเก็บเพื่อรอนาไป ประกอบอาหารด้วยวิธีที่ถูกต้อง วัตถุดิบใน ส่วนของพืชผัก และสมุนไพรที่ใช้ในการ ทาอาหารไทยมีหลายประเภท อาหารไทย เป็นที่นิยมของคนทั่วโลกว่าเป็นอาหารเพื่อ สุขภาพเพราะสรรพคุณทางยาของผักและ สมุนไพรที่ใช้ในการปรุงอาหารเหล่านี้นั่นเอง ซึ่งเครื่องปรุงหลักๆมีดังต่อไปนี้ ผักสมุนไพรไทย
  1. 15. กระชาย กระชาย [Finger Root] : เลือกรากที่สด อวบอ้วน เนื้อจะมีน้ามาก กลิ่นหอม รสซ่า ล้าง ให้สะอาดก่อนใช้ ขูดเอาเปลือกออก แล้วล้างอีกครั้ง สรรพคุณ ช่วยไล่แก๊ส, ช่วยในระบบการ ย่อยอาหาร บรรเทาอาการจุกเสียดกระเพาะอาหาร กระชายยังอุดมด้วยวิตามิน เอ, บี12 และ แคลเซียมด้วย ผักสมุนไพรไทย
  1. 16. พริกแห้ง พริกแห้ง [Dried Chilies] : พริกแห้ง โดยทั่วไปมักจะนาไปคั่วและตาให้ละเอียด เพื่อใช้เป็นเครื่องปรุงนอกจากนั้นพริกแห้งยัง นิยมใช้ในการทาอาหารประเภทแกง สรรพคุณของพริกช่วยทาให้เจริญอาหาร ยัง ช่วยไล่แก๊ส, ลดเสมหะ, ขับปัสสาวะ และยัง ช่วยบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อยอีกด้วย. ผักสมุนไพรไทย
  1. 17. หัวหอมใหญ่ หัวหอมใหญ่ [Onions] : หอมใหญ่ที่มีคุณภาพดีจะต้องมีน้าหนักมาก ผิวแห้งและเรียบ เพื่อให้เก็บได้นานขึ้น ควรเก็บในที่ที่มีอากาศถ่ายเท ไม่ควรแช่ไว้ในตู้เย็น ผักสมุนไพรไทย
  1. 18. ข่า ข่า [Galangal] : เป็นพืชใน ตระกูลเดียวกับขิง มีรสเผ็ดร้อนและกลิ่น แรง ไม่เหมือนกับขิงธรรมดาทั่วไป ควร เลือกซื้อเฉพาะข่าอ่อน รากอวบอ้วน และผิวมีสีชมพูอ่อน สรรพคุณของข่าคือ ช่วยไล่แก๊สในลาไส้ และรักษาโรค ท้องร่วง โรคบิด และยังช่วยลดเสมหะ ผักสมุนไพรไทย
  1. 19. ตะไคร้ ตะไคร้ [Lemongrass] : ควรเลือกซื้อ ตะไคร้ที่ฐานบริเวณลาต้นอวบอ้วนและมีสีม่วง อ่อน เวลาใช้ต้องควรปอกเปลือกข้างนอกออก จนกระทั่งเห็นเนื้อข้างในที่มีสีชมพู สรรพคุณของ ตะไคร้คือช่วยในส่วนการย่อยอาหาร ขับ ปัสสาวะ ขับเหงื่อ และช่วยบรรเทาอาการ อาเจียน นอกจากนั้นยังช่วยลดความดัน และไล่ แก๊ส ตะไคร้ยังใช้เป็นยาบรรเทาอาการเป็นไข้ และลดอาการปวดท้อง ผักสมุนไพรไทย
  1. 20. หอมแดง หอมแดง [Shallots] : หอมแดง ที่มีผิวสีม่วงอมแดง ให้กลิ่นที่แรงกว่า หอมแดงที่มีผิวสีออกเหลืองอ่อนซึ่งจะมี รสออกหวานกว่าเล็กน้อย สรรพคุณของ หอมแดงช่วยไล่แก๊ส ขับปัสสาวะ และ ช่วยรักษาอาการไข้ ผักสมุนไพรไทย
  1. 21. กระเทียม กระเทียม [Garlic] : กระเทียมของ ไทยมักจะมีกลีบที่เล็ก เปลือกที่บางแต่ให้ กลิ่นที่แรง ควรเก็บกระเทียมไว้ในที่ที่มี อากาศถ่ายเท สรรพคุณของกระเทียมช่วย ลดความดัน ลดคลอเลสเตอรอล และลด น้าตาลในเลือด นอกจากนั้นยังช่วยเสริม ภูมิต้านทานของร่างกายอีกด้วย ผักสมุนไพรไทย
  1. 22. ขิง ขิง [Ginger] : มักจะใช้ในการ ทาอาหารสองรูปแบบ คือ ขิงอ่อนมักจะ นาไปหั่นบางๆ และวางบนหน้าปลานึ่ง ขณะที่ขิงแก่ซึ่งมีกลิ่นแรงและรสเผ็ดร้อน มักจะนาไปทาเป็นน้าซ๊อส สรรพคุณของขิง ช่วยไล่แก๊ส ลดการหดเกร็งของลาไส้ และ บรรเทาอาการอาเจียน นอกจากนั้นยังช่วย ลดอาการปวดหัว ปวดท้อง ผักสมุนไพรไทย
  1. 23. มะกรูด มะกรูด [Kaffir Lime] : เป็นพืชที่มีกลิ่นที่ หอมมากโดยเฉพาะใบของต้นมะกรูด ซึ่งในการ ประกอบอาหารสามารถนาใบมะกรูดไปหั่นซอย ให้เป็นชิ้นเล็กๆ หรือฉีกเพื่อเติมลงไปในอาหารก็ ได้ นอกจากนั้นยังสามารถนาไปผสมในการทา เครื่องแกงได้อีกด้วย สรรพคุณของมะกรูดคือ ช่วยไล่แก๊สและบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ น้า มะกรูดยังใช้เป็นยารักษาโรคลักปิดลักเปิด ผักสมุนไพรไทย
  1. 24. ผักชี ผักชี [Coriander] : ใบ ลาต้น และราก มักใช้กันอย่างแพร่หลายในการปรุงอาหาร ไทย ไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภทต้ม, ผัด, ยา และอื่นๆ เพื่อเพิ่มกลิ่นให้ชวนน่ารับประทาน มากยิ่งขึ้น ผักสมุนไพรไทย
  1. 25. ใบกะเพรา ใบกะเพรา [Holy Basil] : กะเพรามี อยู่สองชนิด คือ ชนิดที่ใบมีสีเขียว และชนิด ที่มีสีออกม่วงปนแดง ซึ่งชนิดหลังจะให้กลิ่น ที่หอมและรสชาติเผ็ดกว่าชนิดที่ใบสีเขียว สรรพคุณของกะเพราคือช่วยไล่แก๊สและ บรรเทาอาการปวดท้อง ช่วยขับเหงื่อและลด การวิงเวียนศีรษะ อาการอาเจียน ผักสมุนไพรไทย
  1. 26. ใบแมงลัก ใบแมงลัก [Hoary Basil] : ใบแมงลักจะมี ขน และมีกลิ่นหอมน้อยกว่าใบโหระพา มี สรรพคุณช่วยไล่แก๊สในลาไส้ และลดอาการไอ ที่ สาคัญยังมีส่วนช่วยในการเพิ่มน้านมของมารดา ที่เพิ่งคลอดบุตร นอกจากนั้นยังช่วยรักษาโรค ผิวหนังบางชนิดได้อีกด้วย ผักสมุนไพรไทย
  1. 27. ขมิ้น ชมิ้น [Tumeric] : ขมิ้นที่ใช้ปรุงอาหาร ไทยมีสีออกส้มเหลืองและมีกลิ่นและรสชาติที่ รุนแรง ควรเก็บในถุงพลาสติกและแช่ไว้ใน ตู้เย็นเพื่อเก็บไว้ได้นานขึ้น มีสรรพคุณช่วยลด และบรรเทาแผลพุพอง ช่วยให้ระบบย่อย อาหารทางานดีขึ้นและลดอาการหดเกร็งของ ลาไส้ ลดอาการจุกเสียดและปวดท้อง ผักสมุนไพรไทย
  1. 28. อบเชย อบเชย [Cinnamon] :อบเชยมีสี น้าตาลดา และมีรสหวาน ส่วนมาก มักจะจาหน่ายในรูปผง, หรือแท่ง มี สรรพคุณช่วยขับเหงื่อ และให้ความสด ชื่นแก่ร่างกาย นอกจากนั้นยังช่วยลด แก๊สในกระเพาะอาหาร ผักสมุนไพรไทย
  1. 29. ผงกะหรี่ ผงกะหรี่ [Curry Powder] : ผงกะหรี่ ประกอบด้วยสมุนไพรหลักหลายประเภทได้แก่ ขมิ้น, ลูกผักชี, ขิง, กานพลู, อบเชย, ผงมัสตาร์ด, ลูกกระวานและอื่นๆ มักนิยมใช้ในแกงที่มีสีเหลือง เช่นแกงกะหรี่ นอกจากนั้นยังนิยมนาไปผัดผงกะหรี่ เช่นปูผัดผงกะหรี่ ผักสมุนไพรไทย
  1. 30. เทคนิคการปรุงอาหาร เทคนิคการปรุงอาหาร
  1. 31. เทคนิคการปรุงอาหาร การปรุงอาหารไทยไม่ใช่ศาสตร์ที่ยากเกินไป สาหรับทุกคน รสชาติของอาหารไทยเกิดจากการปรุงรส อย่างกลมกล่อมของเครื่องปรุงและวัตถุดิบหลายๆอย่าง ไม่ ว่าจะเป็นสมุนไพรต่าง ๆ (ใบกะเพรา, พริก, ผักชี, ขิง, กะทิ, กระเทียม, หอมแดง, ใบมะกรูด, น้าปลา และซิอิ๊ว เป็นต้น) ในการปรุงอาหารไทย มักจะใช้น้ามันในการทาอาหารใน ปริมาณที่น้อย และผ่านการปรุงอย่างรวดเร็ว เพื่อคงไว้ถึง รสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุง ซึ่งวิธีการปรุง อาหารไทยหลักๆ มีรายละเอียดดังนี้ เทคนิคการปรุงอาหาร
  1. 32. การผัด การปรุงอาหารด้วยวิธีการผัด ( STIR-FRYING ) : วิธีนี้เป็นวิธีปรุงอาหารที่ง่าย ไม่ยุ่งยาก ถ้าคุณไม่มีกระทะหลุมแบบที่ใช้กันโดยทั่วไป กระทะแบนสาหรับทอดก็ สามารถใช้แทนกันได้ ก่อนการผัดทุกครั้งจะต้องตั้งไฟจนกระทะร้อนได้ที่ก่อนจะใส่ วัตถุดิบ (เนื้อสัตว์ หรือ ผัก) ลงไปในกระทะ ในการผัดนั้น นิยมใช้ตะหลิว (ทั้งที่ทาจาก โลหะ หรือไม้) เพื่อกลับอาหารในกระทะอย่างรวดเร็ว เมื่ออาหารสุก รีบปรุงรสและนา ออกจากกระทะและเสิร์ฟขณะที่อาหารยังร้อนๆ เนื่องจากขั้นตอนการผัดนั้นมักจะใช้ เวลาสั้น วัตถุดิบต่างๆที่จาเป็นต้องใช้ในการประกอบอาหารประเภทนั้นจะต้องถูกเตรียม ให้พร้อมก่อนเริ่มการผัด ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อทาการผัดอาหารแล้วจะได้อาหารที่สุกพอดี ไม่ ไหม้จากการที่ต้องเสียเวลาเตรียมวัตถุดิบอื่นๆขณะที่ผัดอาหาร เคล็ดลับที่สาคัญในการ ผัดอาหารทะเลนั้น เวลาผัดจะต้องใช้ไฟสูง และผัดอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ผิวด้านนอกของ อาหารทะเลสุก ขณะที่ภายในยังนุ่ม (ปรุงงเกือบสุก - จะได้รสชาติดีที่สุด) อาหารทะเลที่ ปรุงสุกเกินไปจะรสชาติไม่อร่อย ผิวแข็ง และกระด้าง เทคนิคการปรุงอาหาร
  1. 33. การตุ๋น การปรุงอาหารด้วยวิธีการตุ๋น ( STEWING ) : การตุ๋นจะช่วยรักษา คุณประโยชน์ของสารอาหารไว้ได้เกือบครบถ้วน โดยสารอาหารที่สาคัญจาก เนื้อสัตว์ ผักและสมุนไพรต่างๆ จะยังคงอยู่ในน้าที่ตุ๋นอาหาร เนื้อสัตว์ที่ หยาบกระด้างเมื่อผ่านการตุ๋นแล้วจะทาให้เนื้อนุ่มน่ารับประทาน ในการตุ๋น อาหารโดยทั่วไป เนื้อสัตว์มักจะถูกหั่นเป็นชิ้นๆ ขนาดใกล้เคียงกัน และเติม น้าลงไปพอท่วมเนื้อ และใส่ในหม้อต้มปิดด้วยฝาที่สนิท ตั้งไฟอ่อนๆ เพื่อ ค่อยๆตุ๋นให้วัตถุดิบภายในสุกอย่างช้าๆ น้าที่ได้จากการตุ๋นสามารถใช้เสิรฟ กับอาหารในลักษณะน้าราดได้อีกด้วย เทคนิคการปรุงอาหาร
  1. 34. การนึ่ง การปรุงอาหารด้วยวิธีการนึ่ง ( STEAMING ) : ในการปรุงอาหารด้วยวิธีนึ่ง นั้น อาหารจะถูกปรุงให้สุกโดยใช้ไอน้าที่เกิดจากการต้มน้าภายใต้อาหารนั้น ทั้งนี้ ทั้งนั้นอาหารจะไม่มีการสัมผัสโดยตรงกับน้าที่ต้ม ซึ่งจะส่งผลให้คุณค่าของสารอาหาร ยังคงอยู่กับอาหารอย่างครบถ้วน และที่สาคัญในการนึ่งนั้นแทบจะไม่ต้องเติมน้ามัน ลงไปในการนึ่งเลย ทาให้การนึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการปรุงอาหารที่ดีต่อสุขภาพเป็นอย่าง มาก เคล็ดลับที่สาคัญสาหรับการนึ่งอาหารให้รสชาติดีนั้น วัตถุดิบที่ใช้จะต้องสด มากๆ การนึ่งอาหารโดยทั่วไปจะต้องมีจานที่สามารถทนความร้อน (ทาจากเซรามิก, แก้ว, กระเบื้องก็ได้ ไม่แนะนาให้ใช้จานที่ทาจากพลาสติกหรือเมลามีน) และต้องมีซึ้ง (Steamer) โดยใส่น้าต้มให้เดือดและนาอาหารที่ต้องการนึ่งวางบนจานทนความร้อน และใส่เข้าไปในซึ้ง และปิดฝาให้สนิท เทคนิคการปรุงอาหาร
  1. 35. การทอด การปรุงอาหารด้วยวิธีการทอด ( DEEP FRYING ) : วิธีการทอดนั้นจะทาให้ อาหารสุกโดยการใส่เนื้อสัตว์หรือผักลงไปในน้ามันที่ตั้งจนร้อน ปริมาณน้ามันที่ใส่จะต้อง มากพอที่จะท่วมอาหารที่จะนาไปทอด การทอดนั้นนิยมทอดในกระทะแบบหลุมหรือ กระทะชนิดแบนก็ได้ อุณหภูมิของน้ามันที่ใช้ในการทอดเป็นปัจจัยที่สาคัญมากในการ ปรุงอาหาร ถ้าน้ามันไม่ร้อน เมื่อใส่อาหารลงไปทอด จะส่งผลให้อาหารอมน้ามันและไม่ น่ารับประทาน ขณะเดียวกันถ้าอุณหภูมิน้ามันสูงเกินไป อาหารที่นาไปทอดก็จะไหม้ อุณหภูมิน้ามันที่เหมาะสาหรับการทอดอยู่ที่ 180 องศาเซลเซียส (หรือประมาณ 350 องศาฟาเรนไฮต์) เมื่อทอดเสร็จแล้วควรสะเด็ดน้ามันออกจากอาหารที่ทอด ตะแกรงลวด โลหะเป็นที่นิยมใช้ในการสะเด็ดน้ามัน นอกจากนั้นกระดาษซับน้ามันก็สามารถใช้ดูดซับ น้ามันออกจากอาหารที่ทอดได้ อาหารที่ผ่านการสะเด็ดน้ามันเป็นอย่างดีจะช่วยคงความ กรอบให้ยาวนานขึ้นอีกด้วย เทคนิคการปรุงอาหาร
  1. 36. การย่าง การปรุงอาหารด้วยวิธีการย่าง ( GRILLING ) : การปรุงอาหารด้วยวิธีการ ย่างนั้น จะนาอาหารที่ต้องการปรุงให้สุก วางไว้บนไฟหรือความร้อน ซึ่งอาจเป็นเตา ถ่าน, เตาไฟฟ้ า บางครั้งอาจใช้เตาอบ หรือตั้งกระทะไว้บนไฟในการย่างอาหารก็ได้ ในการย่างอาหารไทยนั้น อาหารอาจถูกย่างโดยตรงกับไฟ หรืออาจห่อด้วย ใบไม้ หรือฟลอยส์อลูมิเนียม สาหรับใบไม้ที่นิยมใช้นั้นก็มีใบตอง และใบเตย ซึ่งอาหารที่ ห่อและนาไปย่างจะมีกลิ่นหอม ชวนน่ารับประทาน การย่างที่ถูกต้องนั้น จะต้องมี การกระจายความร้อนให้ทั่วอาหารเพื่อไม่ให้อาหารไหม้ ดังนั้นการกลับหน้าอาหาร จึงมีความจาเป็น เคล็ดลับการย่างเนื้อสัตว์ให้อร่อยต้องย่างให้ผิวภายนอกให้สุก และพยายามให้เนื้อภายในเกือบสุก ด้วยวิธีนี้จะได้เนื้อที่นุ่ม ไม่หยาบกระด้าง และ น่าทานเป็นอย่างมาก เทคนิคการปรุงอาหาร
  1. 37. การยา การปรุงอาหารด้วยวิธีการยา ( SALADS ) : อาหารที่ปรุงด้วยวิธีการ ยานั้น จาเป็นต้องเน้นรสชาติที่จัด และ เน้นเครื่องปรุง วัตถุดิบที่สดมากๆ รสชาติอาหารยาจะเป็นการผสมผสานกันของรสเปรี้ยว, รสเค็ม และรสเผ็ด ร้อนของพริก ขณะที่การเพิ่มรสหวานนิดหน่อยจะช่วยทาให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้น สาหรับรสชาติของอาหารยานั้นสามารถปรับได้ตามประเภทของอาหาร ใน ขั้นตอนการยา วัตถุดิบต่างๆจะถูกหั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ และนาไปลวกน้าร้อน อย่างรวดเร็ว ในการคลุกวัตถุดิบและเครื่องปรุงเข้าด้วยกัน ต้องทาอย่าง ระมัดระวัง ไม่เช่นนั้นอาหารจะเละ ไม่น่ารับประทาน เมื่อยาอาหารเสร็จแล้ว ต้องรีบเสิร์ฟทันที อาหารที่ยาเสร็จแล้วปล่อยทิ้งๆไว้นานๆรสชาติของอาหาร จะไม่อร่อย เนื่องจากวัตถุดิบที่อยู่ในอาหารจะดูดน้ายาไปจนหมด ทาให้เสีย รสชาติเดิมที่ยาเสร็จใหม่ๆ เทคนิคการปรุงอาหาร

  1. 38. อาหารคาว อาหารคาว

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ต้มยำกุ้ง


  1. 39. ต้มยำกุ้ง ต้มยากุ้ง ถือเป็นอาหารที่เป็นที่นิยมมากและ ยังติด 1 ใน 10 อาหารไทยยอดนิยมที่ชาวต่างชาติชอบ รับประทาน นอกจากนั้นจากการสารวจข้อมูลของ เว็บไซต์ cnngo.com ที่จัดอันดับสุดยอดอาหาร 50 เมนู ทั่วโลกในปี 2011 ต้มยากุ้งของไทยยังติดอันดับ 8 ด้วย ถือว่าเป็นอาหารที่ไม่ธรรมดาจริงๆ มีรสชาติเป็นที่นิยม ระดับโลก ด้วยส่วนผสมของสมุนไพรมากมาย ไม่ว่าจะ เป็น (ตะไคร้, ใบมะกรูด, และอื่นๆ) ทาให้ต้มยากุ้งเป็น อาหารเพื่อสุขภาพที่ดีจานหนึ่งเลยทีเดียว รสชาติดั้งเดิม จะออกเผ็ดร้อนและเปรี้ยว ผู้ที่ไม่ชอบรสเผ็ด อาจต้อง ปรับลดปริมาณพริกลงในขณะทาการปรุงรส อาหารคาว
  1. 40. แกงมัสมั่น แกงมัสมั่นเป็นอาหารไทยที่ดังระดับโลก โดยติด อันดับ 1 จากการสารวจข้อมูลของเว็บไซต์ cnngo.com ที่ จัดอันดับสุดยอดอาหาร 50 เมนูทั่วโลกในปี 2011 นอกจากนั้นยังติด 1 ใน 10 อาหารไทยยอดนิยมที่ชาวต่าง ขาติและคนไทยชอบรับประทาน แกงมัสมั่นได้รับอิทธิพล มาจากอาหารมลายู เป็นเมนูที่หาทานได้ง่าย พบทั่วไปตาม ร้านข้าวแกงทั่วไป การปรุงไม่ยากแต่อาจต้องใช้เวลาในการ ตุ๋นด้วยไฟอ่อนๆ อย่างน้อยครึ่งชั่วโมง เพื่อให้เนื้อนุ่มอร่อย เสริฟพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ หรือโรตีก็ได้ อาหารคาว
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ปลาราดพริก
  1. 41. ปลำรำดพริก ด้วยความอุดมสมบูรณ์ ในน้ามีปลา ในนามี ข้าว ปลาจึงเป็นอาหารที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี และหนึ่งในเมนูปลาที่ ติดอันดับความนิยมคงหนีไม่ พ้นปลาราดพริกเป็นแน่ เคล็ดลับความอร่อยคือ ปลา ที่นามาทอดต้องเป็นปลาที่สด และ น้ามันที่ใช้ทอด ต้องสะอาดใหม่ น้ามันที่ผ่านการทอดแล้วหลายครั้ง นอกจากจะทาให้ปลาทอดไม่อร่อยแล้ว ยังส่งผล ร้าย ต่อสุขภาพด้วย สูตรน้าราดก็มีส่วนเพิ่มความอร่อย ให้กับปลาทอด เมื่อทาเสร็จ ควรเสริฟทันทีพร้อมข้าว สวยร้อนๆ อาหารคาว


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ต้มข่าไก่


  1. 42. ต้มข่ำไก่ ต้มข่าไก่ เป็นอาหารไทยที่นิยมกันมาก หาทานได้ ง่ายตามร้ายขายข้าวแกงทั่วไป โดยติดอันดับ 1 ใน 10 อาหารไทยยอดนิยมที่ชาวต่างขาติและคนไทยชอบ รับประทาน ต้มข่า เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ มีสมุนไพรเป็น ส่วนประกอบมากมาย โดยเฉพาะข่า (Galangal) มี สรรพคุณช่วย ไล่ลมในกระเพาะอาหาร แก้จุกเสียด นอกจากนั้นยังช่วยแก้ไอ แก้หวัด ลดน้ามูกได้อีกด้วย ประโยชน์มากมาย แต่ควรบริโภคในปริมาณพอดี เนื่องจาก ต้มข่ามีกะทิเป็นส่วนประกอบ ทานมากอาจส่งผลต่อ น้าหนักตัวได้ อาหารคาว

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ไข่ลูกเขย
  1. 43. ไข่ลูกเขย ไข่ลูกเขย เป็นเมนูอาหารอร่อย ที่หาทานได้ง่าย พบได้ทั่วไปตามร้านขายข้าวแกง ด้วยรสชาติที่ออก เปรี้ยวหวาน และ เป็นเมนูไข่ เด็กๆ จึงชอบทานไข่ลูกเขย เป็นอย่างมาก การปรุงก็ง่าย และใช้เครื่องปรุงไม่เยอะ ลองทาทานเอง ได้ที่บ้าน เคล็ดลับความอร่อยคือ หอมแดงเจียว ที่ต้องโรยหน้าก่อนเสริฟทุกครั้ง ซึ่งจะช่วย เพิ่มความหอม และชูรส ให้เมนูจานนี้อร่อยยิ่งขึ้น อาหารคาว
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ผัดซีอิ้ว
  1. 44. ผัดซีอิ๊ว ผัดซิอิ๊ว เป็นหนึ่งในอาหารจานเดียวที่ติด ชาร์ตความนิยมจากคนไทยไม้น้อยกว่าเมนูจานอื่นๆ กลิ่นหอมควันไฟ ที่ได้จากการผัดที่ใช้ไฟแรง เป็นเสน่ห์ ของอาหารจานนี้ นอกจากหมูแล้ว สามารถเปลี่ยน ส่วนผสมเป็น กุ้ง, ไก่ หรือปลาหมึกก็ได้ สาหรับเส้นที่ใช้ ผัด นอกจากเส้นใหญ่แล้ว เส้นหมี่ก็สามารถนามาผัด ได้ (แต่เส้นหมี่ต้องนา ไปแช่น้าให้นุ่มก่อนนามาผัด) อาหารคาว

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ พะแนงเนื้อ
  1. 45. พะแนงเนื้อ พะแนงเป็นอาหารยอดนิยมของคนไทยอีก เมนูหนึ่งที่ได้รับอิทธิพลมาจากอินเดีย พะแนง สามารถหาทานได้ง่าย พบเป็นเมนูประจาตามร้าน ขายข้าวแกงทั่วไป ซึ่งอาจเปลี่ยน จากเนื้อ เป็นหมู หรือไก่บ้าง แต่เครื่องปรุงสาคัญคือน้าพริกแกง พะแนง ซึ่งมีพริกแห้งเป็นส่วนผสม ทาให้สีของ น้าพริกออกแดง เวลาทาไม่ต้องใส่น้าเยอะ พอให้ ขลุกขลิก เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่น้าพริกแกง พะแนง และกะทิที่ใช้ควรเป็นกะทิสด เสริฟพร้อม ข้าวสวยร้อนๆ อร่อยยิ่งนัก อาหารคาว
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ แกงเผ็ดเป็ดย่าง
  1. 46. แกงเผ็ดเป็ดย่ำง เป็นเมนูอร่อยรสเลิศ ที่อาจจะไม่สามารถหา ทานได้ง่ายๆ เนื่องจากเป็ดย่างที่มีราคาสูง ทาให้ไม่ค่อย ได้พบในเมนู ร้านขายข้าวแกงปกติทั่วไป แต่ด้วยความ นิยมในรสชาติที่กลมกล่อมของแกงกะทิกับสมุนไพร และ เป็ดย่าง ทาให้ยังพอหาทานได้ตามภัตตาคาร ร้านอาหาร รวมถึงงานพิเศษในโอกาสต่างๆเช่น ทาบุญบ้าน, ขึ้นบ้าน ใหม่, เป็นต้น สาหรับตัวเป็ดย่าง สามารถซื้อสาเร็จแล้ว นามาแกง หรือจะย่างเองก็ได้ แต่อาจจะยุ่งยากหน่อย แต่ รับรองได้ว่าเมื่อทาเสร็จแล้ว เสริฟทานพร้อมข้าวสวย ร้อนๆ จะลืมความเหนื่อยไปเลย อาหารคาว

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ห่อหมกปลา


  1. 47. ห่อหมกปลา ห่อหมกปลา เป็นอาหารไทยที่สามารถหาทานได้ ง่าย มีขายทั่วไปตามร้ายข้าวแกง เนื้อปลาสดๆ เมื่อนาไป ผสมกับเครื่องแกง , กะทิสด และเครื่องปรุงสมุนไพรแล้ว รสชาติอร่อยยิ่งนัก ภาชนะที่ใส่นึ่งอาจปรับเปลี่ยนตามความ เหมาะสม โดยทั่วไปนิยม ใส่ในกระทงใบตอง บางสูตรมีการ ใส่เนื้อมะพร้าวเข้าไปด้วย เลยใส่ห่อหมกเข้าไปในลูกมะพร้าว เพื่อนาไปนึ่งก็มี เคล็ดลับ ความอร่อยอยู่ที่เนื้อปลาต้องสด มิ เช่นนั้นห่อหมกจะเหม็นคาวเมื่อนึ่งสุก อาหารคาว
  1. 48. อาหารหวาน อาหารหวาน
  1. 49. กล้วยบวชชี ข้าวเหนียวมะม่วง
  1. 50. สังขยาใบเตย ขนมลูกชุบ อาหารหวาน
  1. 51. ขนมตะโก้ ขนมหม้อแกง อาหารหวาน
  1. 52. ฝอยทอง บัวลอย อาหารหวาน
  1. 53. ขนมเปียกปูน ขนมเบื้อง อาหารหวาน
  1. 54. ขนมครก ขนมชั้น อาหารหวาน
  1. 55. ขนมบ้าบิ่น ลอดช่อง อาหารหวาน
  1. 56. ข้าวต้มมัด ขนมโก๋ อาหารหวาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โครงงานพัฒนาเว็บไซต์ เรื่อง อาหารไทย

โครงงานพัฒนาเว็บไซต์ เรื่อง อาหารไทย  จัดทำโดย นางสาว สุชาวดี นกแก้ว ม.4/3 เลขที่ 13 นางสาวเกวรินทร์ โค่ยสัตยา ม.4/3 เลขที่ 23 นางสาว ธน...